MCLAREN 720S

MCLAREN 720S

MCLAREN 720S

สานต่อความเร็วแรงด้วย MCLAREN 720S

                MCLAREN 650S ที่พกมา 650 PS 680 N•M ทำอัตราเร่งได้ 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ที่ 3 วินาที แต่ถ้าใครคิดว่ารุ่นนี้ยังไม่แรงพอ ตอนนี้เรามีพี่ใหญ่ที่มาสานความแรงต่อนั้นก็คือ MCLAREN 720S ที่เราจะมารีวิวในวันนี้

MCLAREN 720S

                ต้องบอกว่า MCLAREN 720Sดูแล้วมีความคล้ายกับ MCLAREN 650S แต่จริง ๆ แล้วมันแทบจะไม่มีอะไรเหมือนกันเลย ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 31,000,000 บาท ซึ่งภายนอกนั้นได้ออกแบบใหม่ทั้งหมด ตัวรถที่ถือว่าออกแบบใหม่ประมาณ 91.69 % เลยทีเดียว มีไฟหน้าที่ดูดุดัน และยังเป็นช่องลมที่ดูดลมผ่านเข้าไป ซึ่งทำหน้าที่แยกลมได้ดี โดยไม่ต้องห่วงเรื่องฝุ่นที่จะมาเกาะติด ด้านข้างของรถนั้นยังมีอุโมงค์ดูดอากาศ มันเป็นเว้าของรถที่ทำหน้าที่ดูดอากาศผ่านเข้าไปในตัวรถ ทำให้ลมนั้นไปเป่าเครื่อง

การออกแบบดีไซน์

                ส่วนการออกแบบข้างบนนั้นเป็น CARBON FIBER ทั้งหมด พูดง่าย ๆ ว่าข้างบนนั้นไม่มีเหล็กเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ทำให้ส่วนนี้น้ำหนักลดลงไปแล้ว 18 กิโลกรัม เป็นเครื่องยนต์ V8 4 ลิตรเทอร์โบคู่ ส่งกำลังไปยังล้อหลังที่สร้างแรงม้ามหาศาลถึง 720 ตัว และ 770 ท้อ ซึ่งจริง ๆ รถรุ่นนี้สามารถทำได้ถึง 1,000 ม้าสบาย ๆ แต่มันจะทำให้แซง HYPERCAR รุ่นพี่ไป ผู้ผลิตจึงจำใจต้องลดความแรงลงมา จึงทำให้ TOP SPEED อยู่ที่ 343 กิโลเมตร/ชั่วโมง

                การออกแบบด้านหลังนั้นให้อารมณ์เป็นยานอวกาศ ลายท่ออยู่ตรงกลาง ถือว่าเป็นอะไรที่ไม่ธรรมดาเลย และMCLAREN 720S นี้ยังมีปีกที่ใหญ่และยาวมากเลยทีเดียว ทั้งหมดนี้มีน้ำหนักเพียงแค่ตันกว่า ๆ ต้องบอกว่าการออกแบบของMCLAREN 720S นั้นให้ความรู้สึกโปร่งแสงมาก ซึ่งทำให้ทัศนวิสัยการมองเหมือนเรากำลังนั่งอยู่ในห้องที่มีกระจกล้อมรอบ และทำให้เราไม่รู้สึกอึดอัด ถึงแม้ว่าห้องโดยสารจะถูกออกแบบครอบด้วยโครง MONOCROP เหมือนกับรถแข่งในฝันที่ทำให้ห้องโดยสารแคบ แต่เมื่อรับกับการออกแบบแบบนี้แล้วมันไม่รู้สึกแคบเลย

INTERIOR ของMCLAREN 72PS

                ทำมาเพื่อรองรับคนขับโดยเฉพาะ ซึ่งคนนั่งข้าง ๆ นั้นไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย และในส่วนของจอหน้าปัดนั้นจะบอกความเร็ว และสามารถพับลงได้เพื่อไม่ให้บังสายตาของเราในขณะที่ขับใน TRACK ต้องบอกว่าคูลจริง ๆ ส่วนจอขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลางของรถนั้นคือจอบอกข้อมูลรุ่นใหม่ ทำหน้าที่บอกทุกอย่าง และ SET UP ของรถ โดยมีปุ่มปรับโหมดปรับได้ 3 โหมด คือ COMFORT, SPORT และ TRACK แยกเป็น 2 ส่วนสำหรับปรับโช้คและสำหรับเครื่องยนต์ และเราสามารถปรับเบาะที่นั่งและพวงมาลัยให้ตรงกับองศาของเราอีกด้วย ซึ่งวัสดุทำมาจาก ALCUNTARA และ ALUMINIUM ที่ผสมกับ CARBON FIBER ให้ความรู้สึกอยากจะซิ่งขึ้นมาทันที

RELATES POST