FERRARI ROMA

FERRARI ROMA

FERRARI ROMA

FERRARI ROMA รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับเอกลักษณ์เฉพาะตัว

     ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าทาง FERRARI ได้ผลิตรถรุ่นนี้ขึ้นมาโดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ FERRARI ROMA นั้นตอบโจทย์ในการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน ซึ่งรถรุ่นนี้ได้สะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตอันเรียบง่ายในกรุงโรม ในยุค 1950 และ 60 แต่ทาง FERRARI ได้สร้างให้รถรุ่นนี้มีความล้ำสมัยและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนทั่วไป ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงใหม่ของทาง FERRARI ซึ่งคันนี้จะเป็นคันที่อยู่ในรุ่นเริ่มต้นที่สุดของ FERRARI นั่นก็คือเป็นรุ่นที่มีราคาย่อมเยานั่นเอง แต่ถือว่าเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดอยู่ในขณะนี้

      คำว่า ROMA นั้นเป็นภาษาอิตาลี ซึ่งหมายถึง ROME เมืองหลวงของประเทศอิตาลีนั่นเอง ที่ใช้ชื่อนี้ก็เพราะว่ารถรุ่นนี้มีเอกลักษณ์ที่สำคัญเป็นอย่างมาก ถ้าสังเกตการดีไซน์ของรถเมื่อมองในระยะไกลหรือสำหรับคนที่ไม่ได้รู้จักรถรุ่นนี้มาก่อนจะมองไม่ออกเลยว่าเป็นแบรนด์ FERRARI เพราะเป็นการดีไซน์ในยุคใหม่ที่ต้องการใส่ความ SLYLIST และ FASHION เข้าไป โดยการดีไซน์ลักษณะนี้จะตอบโจทย์ UNISEX ที่เหมาะกับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เพราะรูปลักษณ์ของรถนั้นมองได้สองมุมทั้งสวยและหล่อแบบเท่ ๆ ในเวลาเดียวกัน ซึ่งได้เปิดตัวด้วยราคาเริ่มต้น 21,230,000 บาท

FERRARI ROMA

รูปลักษณ์การดีไซน์ภายนอก

     ต้องบอกก่อนว่า FERRARI ROMA รุ่นนี้เป็นรถที่ออกแบบได้แตกต่างจาก FERRARI ทุกรุ่นที่ผ่านมา โดยปกติแล้วเมื่อนึกถึง FERRARI ก็จะทำให้นึกถึงรถสปอร์ตสีแดงสไตล์ซูเปอร์คาร์ และเมื่อมองในระยะไกลก็จะรู้เลยว่าเป็น FERRARI แต่กับรุ่นนี้เขาก็ได้เพิ่มความมีสไตล์เข้าไปค่อนข้างเยอะมากเลยทีเดียว เมื่อมองผิวเผินจะคล้าย ๆ กับ ASTON MARTIN แต่ถ้ามาดูที่รายละเอียดของตัวรถแล้วจะเห็นว่าเป็นแบรนด์ FERRARI อย่างชัดเจน เพราะเขาได้ใส่ความเป็นอิตาเลียนเข้าไปอย่างครบถ้วนเลย ในส่วนของไฟหน้านั้นได้ถูกดีไซน์ใหม่ให้ดูโฉบเฉี่ยว ส่วนกระจังหน้าจะมีความคล้ายคลึงกับ FERRARI รุ่นคลาสสิก แต่ทำออกมาให้ดูโมเดิร์นมากขึ้น โดยรวมของกระจังหน้านั้นถ้ามองจากด้านข้างจะมีความเป็น SHARKS NOSE นั่นก็คือคล้ายกับจมูกที่ยื่นออกมานั่นเอง ทำให้ภาพรวมรถรุ่นนี้มีทั้งความเร็ว แรง และเท่ในเวลาเดียวกัน

FERRARI ROMA

     ด้วยความที่รถรุ่นนี้ไม่ได้มีความโจ่งแจ้งเหมือนกับสไตล์ FERRARI รุ่นอื่น ๆ ทาง FERRARI จึงเลือกสี BLU ROMA มาเป็นสีโปรโมตซึ่งเป็นสีที่เพิ่งเปิดตัวออกมาใหม่ เมื่อดูใกล้ ๆ จะดูเหมือนสีน้ำเงินเข้ม ๆ แต่ถ้าเกิดว่าดูบางมิติที่มีแสงสะท้อนจะเห็นว่าเป็นสีเทาเข้ม ๆ ต้องบอกว่าดูมีความ STYLIST สวยงามมากทีเดียว ในส่วนของล้อนั้นจะเป็นล้อ FORGED ขนาด 20 นิ้ว พร้อมกับเบรกคาลิปเปอร์สีดำ ถึงแม้จะออกแบบมาให้มีความโมเดิร์น แต่ว่าก็ยังคงเอกลักษณ์บางอย่างของความคลาสสิกไว้อยู่ อย่างเช่นไฟเลี้ยวด้านข้างที่มีลักษณะเป็นวงกลม ซึ่งจะเห็นได้จากหลาย ๆ รุ่นในอดีตของแบรนด์นี้ก็ยังคงไว้กับ FERRARI ROMA รุ่นนี้ แต่ส่วนที่หายไปก็คือรูเสียบกุญแจ ซึ่งโดยปกติแล้ว FERRARI จะมีไว้แต่รุ่นนี้จะไม่มีแล้ว แต่มีการใส่ระบบ COMFORT ACCESS เข้าไป ถ้าเกิดว่าเรามีกุญแจอยู่กับตัวก็สามารถกดปุ่มเล็ก ๆ บริเวณประตูรถเพื่อทำการล็อกหรือปลดล็อกรถได้เลย วิธีการเปิกประตูนั้นจะดูเท่มาก ๆ ซึ่งไม่ได้มี DOOR HANDLES ที่ยืดออกมาแต่จะเห็นว่ามันเรียบสนิทไปกับตัวรถเลย และรุ่นนี้จะเป็นรถ 2 ประตู

FERRARI ROMA

การออกแบบภายในห้องโดยสาร

     ภายในห้องโดยสารจะเป็นแบบ 2+2 ที่นั่ง หมายความว่านั่งเต็ม ๆ ได้ 2 คน และ 2 ที่นั่งด้านหลังนั้นแทบจะนั่งไม่ได้เลย เพราะมีพื้นที่ค่อนข้างแคบอาจจะเหมาะกับคนตัวเล็กหรือจะใช้ในการวางสิ่งของต่าง ๆ มากกว่า โดยสามารถพับเบาะหน้าด้วยการเลื่อนไปข้างหน้า ตรงส่วนนี้จะเป็นระบบไฟฟ้าและต้องเลื่อนไกลพอสมควรเพราะพื้นที่ด้านหลังจะค่อนข้างแคบ ภายในของรถดูสวยงามเพราะเป็นการออกแบบในยุคใหม่ จะเห็นว่าหน้าจอพวงมาลัยตรงที่เป็นหน้าปัดนั้นเป็น DIGITAL 100% เลยทีเดียว ซึ่งเป็นจอที่มีขนาดใหญ่มาก ๆ และสามารถปรับแต่งได้อย่างหลากหลาย ในขณะที่เราขับขี่นั้นสามารถเลือกได้ว่าจะเอา TACHOMETER อยู่ตรงกลาง หรือว่าจะเป็นหน้าจอ DIGITAL แบบเต็มที่เลยก็ได้ โดยจะมี DIGITAL ให้สัมผัสหลากหลายตำแหน่งมากที่เป็น CAPACITIVE TOUCH SCREEN ที่อยู่บนพวงมาลัย รวมถึงปุ่ม START ด้วย

FERRARI ROMA

     ซึ่งเราจะไม่เห็นเป็นปุ่ม PHYSICAL จะอยู่ตรงกลางของพวงมาลัยที่ให้สัมผัส START ได้ง่าย ๆ ส่วน MANETTINO ต่าง ๆ นั้นก็ยังคงหมุนได้ด้วย PHYSICAL แต่จะมีการแสดงสถานะเป็น DIGITAL เพราะฉะนั้น FERRARI ROMA จะเป็นการออกแบบในยุคใหม่ที่ผสมผสานเอาหน้าจอเข้ามาใช้ร่วมกันกับการขับขี่เยอะพอสมควรเลย ซึ่งจะฉีกแนวจาก FERRARI รุ่นอื่น ๆ และในส่วนของการปรับเกียร์นั้นถึงแม้ว่าจะเป็นเกียร์ AUTO แต่ยังมีการดีไซน์ให้ใกล้เคียงกับเกียร์ MANUAL และจะสามารถเลือกโหมดเกียร์ได้ง่าย ๆ ส่วน OPTION ที่น่าสนใจที่สามารถเพิ่มเข้ามาได้อีกเช่นกันก็คือ PASSENGER DISPLAY ซึ่งจะเป็นจอแนวนอนยาว ๆ ในฝั่งผู้โดยสาร โดยจะแสดงให้เห็นสถานะความเร็วที่ใช้อยู่รอบเครื่องยนต์ที่ใช้อยู่ได้แบบเร็ว ๆ จะทำให้ผู้โดยสารเพลิดเพลินไปกับการขับขี่พร้อม ๆ กัน และโลโก้ ROMA ที่อยู่บน PANEL ที่เป็นหนังทำให้ดูโดดเด่นและสวยงามมากยิ่งขึ้น

FERRARI ROMA

เครื่องยนต์ของ FERRARI ROMA

     เครื่องยนต์ที่ใช้จะเป็นเครื่องยนต์ 8 สูบ 3.9 ลิตร ของทาง FERRARI ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นการแชร์เครื่องยนต์กันระหว่าง FERRARI PORTOFINO กับ F8 ซึ่งใน F8 จะมีเครื่องยนต์ที่ให้กำลังสูงสุด 710 แรงม้า แต่เมื่อมาอยู่ใน ROMA ก็จะอยู่ที่ 620 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ใน 3.4 วินาที ถือว่าเป็นรุ่นที่แรงเลยทีเดียว และแรงบิดสูงสุดที่ 760 นิวตัน-เมตร ที่ 3,000-5,750 รอบ/นาที

RELATES POST