LAMBORGHINI SESTO ELEMENTO

LAMBORGHINI SESTO ELEMENTO

LAMBORGHINI SESTO ELEMENTO

LAMBORGHINI SESTO ELEMENTO รถยนต์นั่งสมรรถนะสูงที่มีน้ำหนักเบาที่สุด

     จุดเริ่มต้นของรถคันนี้เกิดจากทาง LAMBORGHINI ได้ตั้งใจที่จะพัฒนาและชูจุดเด่นของรถคันนี้ให้มีความล้ำสมัย มาพร้อมกับความเท่และความสปอร์ต รถรุ่นนี้ออกแบบโดยทราวิส มาร์ช ซึ่งได้เผยโฉมให้เห็นครั้งแรกในงาน PARIS MOTOR SHOW ปี ค.ศ.2010 หลังจากที่หลายคนได้ยลโฉมรูปลักษณ์ที่ดูโดดเด่นของรถรุ่นนี้แล้วก็เป็นที่ฮือฮามาก เพราะตัวรถมีความดุดันบวกกับข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับตัวรถ อย่างเช่นน้ำหนักของรถ ซึ่งมีน้ำหนักเพียงแค่ 999 กิโลกรัมเท่านั้น ถือว่าเบากว่าทุกรุ่นที่เคยมีมาเลย จึงทำให้การออกตัวเร็วขึ้น โดยผู้ผลิตอย่าง SESTO ELEMENTO ก็ได้กระตุ้นความอยากได้ของผู้ซื้อด้วยการผลิตในจำนวนจำกัดเพียงแค่ 20 คันเท่านั้น

      ถือว่าเป็นประเพณีของ LAMBORGHINI ไปแล้วสำหรับการตั้งชื่อรถรุ่นต่าง ๆ ที่จะต้องตั้งชื่อเกี่ยวกับกระทิง แต่สำหรับ LAMBORGHINI SESTO ELEMENTO จะไม่ใช่รุ่นที่มีชื่อเกี่ยวกับกระทิง ซึ่งต้องบอกว่าเป็นเพียงไม่กี่รุ่นของ LAMBORGHINI ที่ไม่มีชื่อเกี่ยวกับกระทิง SESTO ELEMENTO = SIXTH ELEMENT แปลว่า “ธาตุลำดับที่ 6” ซึ่งหมายถึงคาร์บอนนั่นเอง และเหตุผลที่ใช้ชื่อนี้ก็เพราะว่าตัวโครงสร้างของรถนั้นเป็น CARBON MONOCOQUE ทั้งคันเลย และ SUSPENSION SYSTEM รวมถึงตัวล้อก็เป็น CARBON เช่นกัน

LAMBORGHINI SESTO ELEMENTO

ภาพรวมของ LAMBORGHINI SESTO ELEMENTO

     การใช้วัสดุจากคาร์บอนเป็นส่วนสำคัญของ LAMBORGHINI SESTO ELEMENTO เพราะเป็นตัวที่จะทำให้รถมีน้ำหนักน้อยลงมาก ซึ่งรถรุ่นนี้จะไม่มีแอร์ วิทยุ รวมถึงเบาะที่นั่ง เพราะโครงสร้างของตัวรถนั้นเป็นโครงสร้างของเบาะอยู่แล้ว แต่แค่เอาโฟมที่นั่งมาแปะไว้ตรงที่นั่งด้านหน้าและด้านหลังก็เท่านั้น และตรงจุดนี้จะทำให้ลดน้ำหนักลงไปอีกส่วน ซึ่งน้ำหนักของ LAMBORGHINI SESTO ELEMENTO นั้นมีน้ำหนักเพียงแค่ 999 กิโลกรัมเท่านั้น ถือว่าเป็นรถที่มีน้ำหนักเบามาก ๆ และในส่วนท่อไอเสียนั้นจะอยู่ด้านล่างของฐานปีกหลัง เรียกได้ว่ามีข้อแตกต่างจากรถรุ่นอื่น ๆ นอกจากนี้ในส่วนของฝาครอบเครื่องยนต์ก็จะเป็นทรง 6 เหลี่ยม เพื่อระบายความร้อนของเครื่องและที่สำคัญรถรุ่นนี้ไม่ใช้การ PAINT สี เพราะใช้ CARBON COMPOSITE กับ PLASTIC เป็นตัวรถรวมถึงเคลือบด้วย MICRO CRYSTAL บาง ๆ เพื่อให้รถมีการสะท้อนแสงเล็ก ๆ ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่าง LAMBORGHINI ADVANCE COMPOSITE RESEARCH CENTER กับ BOEING LAB โดยรถรุ่นนี้ผลิตเพียงแค่ 10 คันเท่านั้น ในสมัยนั้นมีราคาอยู่ที่ประมาณ 65-75 ล้านบาท (ไม่รวมภาษี) นอกจากนี้ยังไม่สามารถขับออกมาบนท้องถนนได้เพราะ LAMBOGHINI SESTO ELEMENTO ถูกสร้างออกมาให้วิ่งอยู่บน TRACK เท่านั้น Sesto Elemento ได้รับไฟเขียวสำหรับการผลิตเกือบหนึ่งปีหลังจากการเปิดตัวในปารีส Sesto Elemento มีจำนวน จำกัด เพียง 20 เครื่องเท่านั้นและแต่ละเครื่องขายได้มากกว่า 2,000,000 เหรียญ ด้วยการผลิตที่ จำกัด และมีโอกาสได้รับความชื่นชมสูงรถสปอร์ตคาร์บอนไฟเบอร์จึงใช้เวลาในโรงรถมากกว่าการขับบนรางอย่างแน่นอน

     โชคดีที่รูปแบบของรถนั้นน่าตื่นเต้นพอ ๆ กับสมรรถนะและมุมที่แหลมคมที่พาดผ่านแผงประตูคาร์บอนไฟเบอร์แผงหน้าปัดแบบเปลือยและแผ่นโฟมที่ยึดติดกับไฟร์วอลล์และพื้นห้องโดยสารและแทนที่เบาะนั่งแบบเดิม ความตื่นเต้นของภาพที่จำเป็นเพื่อให้สามารถจ้องมอง Sesto Elemento ที่กำลังนั่งอยู่เป็นเวลาหลายชั่วโมงในตอนท้าย

LAMBORGHINI SESTO ELEMENTO

การออกแบบภายในห้องโดยสาร

      การออกแบบภายในห้องโดยสารนั้นได้ออกแบบลักษณะที่นั่งและพวงมาลัยให้มีความรู้สึกเหมือนกับการขับยานอวกาศ ทำให้ผู้ขับรู้สึกอยากจะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ซึ่งสอดคล้องกับอัตราการออกตัวเร็ว และความเบาของตัวรถก็มีความสมดุลเช่นกัน และเบาะนั่งก็ถูกผลิตออกมาเพื่อรองรับสรีระของผู้ขับขี่ให้เข้ากับตัวรถได้เป็นอย่างดี โดยรถรุ่นนี้จะมี2 ที่นั่ง 2 ประตู มาพร้อมกับเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกมากมายแก่ผู้ขับขี่ การออกแบบที่นั่งให้ดูทันสมัย และเท่ดุดันเหมือนภายนอกตัวรถ ทำให้คนสนใจอยากได้ขึ้นมาอีก

LAMBORGHINI SESTO ELEMENTO

เครื่องยนต์

     LAMBORGHINI SESTO ELEMENTO ใช้เครื่องยนต์เดียวกันกับ LAMBORGHINI GALLARDO SUPERLEGGERA ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ 5.2 ลิตร V10 ให้แรงม้าสูงสุด 562 แรงม้า และแรงบิด 540 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ธรรมดาแบบ 6 SPEED ขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ในเวลาเพียง 2.5 วินาทีเท่านั้น ซึ่งถือว่าเร็วมากเลยทีเดียว

LAMBORGHINI SESTO ELEMENTO

RELATES POST