เมื่อพูดถึง รถครอบครัว แล้วก็คงหนีไม่พ้นรถที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งรถครอบครัวที่ได้รับความนิยมที่สุดในปัจจุบันนั้นก็จะเป็นรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่และเป็นรถที่ขึ้นชื่อว่ารถอเนกประสงค์นั่นเอง เพราะรถแบบนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ใช้งานกับคนในครอบครัวโดยเฉพาะ นอกจากนี้รถครอบครัวในปัจจุบันก็มักจะเป็นรถที่มี 7 ที่นั่งด้วย ซึ่งจะมีพื้นที่ที่ค่อนข้างกว้างขวางสะดวกสบายต่อการใช้งานด้วย และวันนี้เราจะมาแนะนำ 5 รถครอบครัว 7 ที่นั่งที่น่าสนใจในปี 2021 นี้ และจะมีรถยนต์รุ่นใดบ้างนั้นไปชมกันเลย
1.TOYOTA INNOVA 2021
TOYOTA INNOVA 2021 ได้มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ภายนอกรอบคันให้ดูมีความโฉบเฉี่ยว ทันสมัย และโดดเด่นสะดุดตามากยิ่งขึ้น โดยภายในห้องโดยสารนั้นจะได้รับการออกแบบอย่างมีระดับ ซึ่งมีขนาดที่กว้างขวางสะดวกสบายต่อการใช้งาน และมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายที่ครบครันด้วย ส่วนเครื่องเสียงก็จะมีหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว โดยจะรองรับ APPLE CAR PLAY และฟังก์ชันความปลอดภัยขั้นสูงสุด ด้วยกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา รวมไปถึงสัญญาณกะระยะด้านหน้าและด้านหลังด้วย ซึ่งจะประกอบกับสมรรถนะในการขับขี่อย่างคล่องตัว ต้องบอกว่าให้ความคุ้มค่าในทุก ๆ ด้านเพื่อชีวิตที่เหนือระดับจริง ๆ โดยจะมีให้เลือก 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ 2.8 CRYSTA PREMIUM, 2.8 CRYSTA และ 2.0 ENTRY
TOYOTA INNOVA 2021 มีการดีไซน์ภายนอกใหม่ สำหรับรุ่น 2.8 นั้นจะมีกระจังหน้าดีไซน์ใหม่และตกแต่งด้วยโครเมียม ส่วนในรุ่น 2.0 ENTRY นั้นก็จะมีกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ด้วยวัสดุสีเงินทำให้ดูโดดเด่นและกันชนหน้าดีก็ได้ไซน์ให่เช่นกัน ซึ่งส่งเสริมให้มีความสปอร์ตและทันสมัยมากขึ้น ส่วนสปอยเลอร์ด้านหลังจะให้ความรู้สึกสปอร์ตและเท่ มาพร้อมกับไฟท้ายที่ดูโดดเด่นเจิดจ้า มองเห็นเด่นชัดในระยะไกล (เฉพาะรุ่น 2.8) และมีล้ออัลลอยที่ดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว เฉพาะรุ่น 2.8 CRYSTA PREMIUM ซึ่งจะสะท้อนถึงความสง่างาม และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 16 นิ้วที่สะท้อนภาพลักษณ์ให้ดูโดดเด่นขึ้นมา
ภายในห้องโดยสารนั้นมีเบาะนั่งหุ้มหนัง พร้อมตกแต่งด้วยวัสดุลายไม้ (เฉพาะรุ่น 2.8 CRYSTA PREMIUM) มีระบบเปิดประตูอัจฉริยะ SMART ENTRY และระบบสตาร์ทอัจฉริยะ PUSH START ที่จะคอยควบคุมการล็อกและปลดล็อกประตู และสตาร์ทเครื่องยนต์ได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส (เฉพาะรุ่น 2.8)
สมรรถนะการขับขี่ TOYOTA INNOVA 2021 มากับเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร GD-EFFCIENT BOOST โดยจะมีอัตราเร่งเต็มพิกัดในทุกการขับเคลื่อน และช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีเยี่ยมเลยทีเดียว
เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร DUAL VVT-I มีสมรรถนะที่โดดเด่น ราบรื่นทุกการขับขี่มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และ SEQUENTIAL SHIFT ระบบส่งกำลังสุดล้ำ ตอบสนองได้อย่างทันใจ พร้อมยกเลิกเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ในรุ่น 2.0 Entry ด้วย
2.ALL-NEW ISUZU MU-X 2021
ALL-NEW ISUZU MU-X 2021 ใหม่ที่ถูกนำมาจัดแสดงภายในบูธอีซูซุที่งาน MOTOR EXPO 2020 และได้เคาะราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,109,000-1,579,000 บาท
ด้วยการดีไซน์ภายนอกของ ISUZU MU-X 2021 นั้นได้ถูกออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมดภายใต้แนวคิด EMOTIONAL&SOLID ซึ่งติดตั้งไฟหน้าแบบ BI-LED PROJECTOR พร้อมกับไฟที่ส่องสว่างเวลากลางวันแบบ ARROW SIGNATURE ทำให้รับกับกระจังหน้าแบบ WORLD CROSS FLOW ส่วนไฟท้ายจะเป็นแบบ LED WINGLET SIGNATURE ที่ให้มุมมองแบบ 3 มิติ โดยได้ติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ในรุ่น ULTIMATE ขนาด 18 นิ้ว ในรุ่น ELEGANT และขนาด 17 นิ้ว ในรุ่น ACTIVE
ภายในห้องโดยสารนั้นได้ติดตั้งเบาะนั่งหุ้มวัสดุหนังสีน้ำตาล SADDLE BROWN ที่จะมาพร้อมกับระบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางฝั่งผู้ขับขี่ และ 4 ทิศทางในฝั่งผู้โดยสาร และได้เสริมด้วยวัสดุ COOLMAX ไว้เพื่อช่วยลดความร้อนสะสมของตัวเบาะ ส่วนประตูท้ายเปิด-ปิดนั้นก็จะเป็นระบบไฟฟ้า และระบบเบรกมือไฟฟ้าพร้อม AUTO BRAKE HOLD อีกทั้งยังมีระบบอินโฟเทนเมนท์ ISUZU ULTIMATE ENTERTAINMENT อีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว ที่รองรับ APPLE CARPLAY/ANDROID AUTO ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา และช่องจ่ายไฟ AC ขนาด 220 โวลต์ และต้องบอกว่าเป็นครั้งแรกที่อีซูซุได้ทำการติดตั้งระบบความปลอดภัยขั้นสูง ISUZU MATRIX SAFETY INTELLIGENCE ซึ่งจะทำงานผ่านกล้องหน้าคู่อัจฉริยะ 3D IMAGINE STEREO CAMERA และเรดาร์ 2 ตำแหน่ง
ในด้านขุมพลังของ ALL-NEW ISUZU MU-X 2021 ก็ยังมีให้เลือกทั้งดีเซล 1.9 DDI BLUE POWER (GEN 2) ที่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 350 นิวตัน-เมตร และดีเซล 3.0 DDI BLUE POWER ที่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 450 นิวตัน-เมตร และจะส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ REV TRONIC พร้อมกับแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย หรือเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ GENIUS SPORT SHIFT ขณะที่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4WD จะเป็นแบบ PART TIME โดยจะมีให้เลือกเฉพาะรุ่น 3.0 DDI ที่เป็นเกียร์อัตโนมัติเท่านั้น
ISUZU MU-X 2021 ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 7 รุ่นย่อยด้วยกัน ซึ่งจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล 2 ขนาด ได้แก่ 1.9 ลิตร และ 3.0 ลิตร โดยจะแบ่งออกเป็น 4 เกรด ประกอบด้วย ACTIVE, LUXURY, ELEGANT และ ULTIMATE ซึ่งตัวถังนั้นก็จะมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีน้ำตาล MARRAKESH BROWN, สีขาวมุก DOLOMITE PEARL WHITE, สีแดง ETNA RED, สีดำ BAVARIAN BLACK MICA, สีเงิน ICEBURG SILVER และสีเงิน BOHEMIAN SILVER METALLIC
3.MAZDA CX-5
MAZDA ได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถ SUV ด้วยการปรับลุครถอเนกประสงค์รุ่นใหญ่อย่าง CX-5 ถือว่าเป็นครั้งแรกของตลาดรถอเนกประสงค์ SUV ที่ให้ลูกค้าสามารถเลือกได้ถึง 3 เครื่องยนต์ โดยจะมาพร้อมกับความหรูหราง่างามทั้งภายนอกและภายใน และต้องบอกว่าทุกองค์ประกอบนั้นก็ได้รับการออกแบบและจัดวางอย่างเหมาะสมลงตัวเลยทีเดียว ซึ่งได้ผ่านการคัดสรรวัสดุอย่างปราณีตและมีความพิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียดเสมือนงานที่ทำด้วยมือ โดยจะกลิ่นอายของความหรูหรา นุ่มนวล และให้ความประทับใจในทุกการสัมผัส ภายใต้คอนเซ็ปต์ “LIVE THE REMARKABLE LIFE หรือ ให้ชีวิตทุกบทน่าจดจำ” พร้อมเติมเต็มความหมายใหม่ ๆ ให้กับชีวิตสมบูรณ์แบบและน่าจดจำนั่นเอง
ภายในห้องโดยสารได้ออกแบบพัฒนาอย่างพิถีพิถันเพื่อมอบสัมผัสใหม่พิเศษให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้วยคอนเซ็ปต์ “LESS IS MORE” ซึ่งเน้นในความเรียบง่ายแต่งดงามในทุกรายละเอียด เช่น การดีไซน์ใหม่ของแผงควบคุมแอร์, ปุ่มควบคุมอัจฉริยะ CENTER COMMANDER ปุ่มปรับกระจกมองข้างที่พรีเมียมมากขึ้น กระจกมองหลังที่ปรับลดแสงได้อย่างอัตโนมัติแบบไร้กรอบ โดยได้เพิ่มความหรูหราให้กับห้องโดยสารด้วยการใช้โทนสีเข้มและเลือกใช้วัสดุแบบ REAL WOOD มาผสมผสานกับสีเงินซาตินโครมในการตกแต่ง สัมผัสกับเบาะหนัง NAPPA สีแดง DEEP RED ที่มาพร้อมกับระบบระบายอากาศตำแหน่งเบาะนั่งคู่หน้า SEAT VENTILATION มาตรวัดแบบความเร็วแบบดิจิตอล TFT LCD
เครื่องยนต์จะเป็นแบบใหม่ SKYACTIV-G 2.5T โดยจะให้กำลังสูงถึง 231 แรงม้า แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 420 นิวตัน-เมตร มาพร้อมระบบเทอร์โบแบบ DYNAMIC PRESSURE ซึ่งได้เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าที่ชื่นชอบรถยนต์สไตล์ SUV ที่เติมเต็มความสมบูรณ์แบบในการขับขี่ด้วยสมรรถนะความแรง ให้การตอบสนองที่ดีที่สุดในคลาส และอีก 2 ทางเลือกเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 2.2 ลิตร ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นไปในอีกระดับ รวมไปถึงเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร ที่ให้สัมผัสกับการควบคุมขับขี่ที่นุ่มนวลมากยิ่งขึ้นด้วยระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง หรือ GVC PLUS นั่นเอง
4.NISSAN TERRA 2021
NISSAN TERRA 2021 นี้จัดเป็นรถอเนกประสงค์ในกลุ่มของ PPV ที่มีพื้นฐานมาจากกระบะนาวารา โดยได้ทำการจัดจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2018 แต่เหมือนว่าจะมีหน้าตาที่ไม่โดนใจ เพราะรถนั้นดูไม่แตกต่างไปจากนิสสัน นาวารา เลยทั้้งภายในและภายนอก จึงทำให้ไม่เป็นที่นิยมในตลาด และยอดขายก็ตกลงอย่างต่อเนื่อง แต่การกลับมาในครั้งนี้ของ NISSAN TERRA ภายใต้แคมเปญ ” NISSAN NEXT ” ที่ได้เปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมดทั้งภายนอกและภายในนั้นจะทำให้ NISSAN TERRA ดูมีความหรูหรามากขึ้น
ในส่วนของภายนอกนั้นได้เปลี่ยนกระจังหน้าใหม่ และไฟหน้าเป็นแบบ LED PROJECTORS QUAD-EYED พร้อมกับระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ มีไฟตัดหมอก LED รวมถึงไฟท้ายแบบ LED ทรงใหม่ และก็ยังมีฝาท้ายใหม่ด้วย ส่วนล้อนั้นก็จะเป็นล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ลายใหม่
ภายในห้องโดยสารนั้นจะมีคอนโซนที่ถูกออกแบบใหม่โดยการเน้นสีดำ ส่วนแดชบอร์ดหน้า จะมีขนาด 7 นิ้ว TFT METER ดีไซน์ใหม่ พวงมาลัยก็ดีไซน์ใหม่เช่นเดียวกัน และมีหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ APPLE CARPLAY และ ANDROID NISSAN INTELLIGENT MOBILITY นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (IAVM) INTELLIGENT AROUND VIEW MONITOR (IAVM), เทคโนโลยีกระจกมองหลังอัจฉริยะ INTELLIGENT REAR VIEW MIRROR, INTELLIGENT EMERGENCY BRAKING ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ, INTELLIGENT FORWARD COLLISION WARNING ระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ, BLIND SPOT WARNING ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา, LANE DEPARTURE WARNING ระบบเตือนการออกนอกเลนส์, REAR CROSS TRAFFIC ALERT ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง, ระบบไฟหน้า HIGH BEAM ASSIST, ระบบเตือนผู้ขับขี่ INTELLIGENT DRIVER ALERTNESS และถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่งด้วย
ในส่วนของเครื่องยนต์นั้นจะเป็นเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ รหัส YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร บรรจุ 2,298 ซีซี. DOHC TWIN-TURBO INTERCOOLER (เทอร์โบคู่) โดยจะให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที โดยจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ และขับเคลื่อนล้อหลังหรือขับเคลื่อน 4 ล้อนั่นเอง
5.KIA CARNIVAL 2021
KIA CARNIVAL 2021 ใหม่ที่ถูกพัฒนาต่อเนื่องมาจนถึง GENERATION 4 แล้ว ซึ่งถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกในตลาดเกาหลีใต้เมื่อกลางปี 2020 ที่ผ่านมา ในขณะที่บ้านเรานั้นก็จะมีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อยด้วยกัน ซึ่งได้แก่ EX และ SXL พร้อมห้องโดยสารแบบ 4 แถว 11 ที่นั่ง และเสริมด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่ AAVANCED DRIVER ASSISTANCE SYSTEMS (ADAS) เป็นครั้งแรกด้วย
ภายนอกได้ถูกออกแบบใหม่โดยการเน้นความหรูหราขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดเลย และได้ติดตั้งไฟหน้าแบบ LED MULTI FOCUS พร้อมกับไฟที่ส่องสว่างเวลากลางวัน มีระบบไฟสูงอัตโนมัติ HIGH BEAM ASSIST ระบบไฟส่องสว่างช่วยเหลือ ESCORT HEADLAMP ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED หลังคาซันรูฟ 2 บาน ประตูสไลด์ไฟฟ้าซ้าย-ขวาแบบ SMART POWER SLIDING DOOR ประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ SMART TALIGATE และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารนั้นได้ติดตั้งเบาะนั่งแบบ 11 ที่นั่ง พร้อมกับระบบ ISOFIX ในบริเวณเบาะนั่งแถวที่ 2 และเบาะนั่งคู่หน้าสามารถปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้า และระบบดันหลังไฟฟ้าฝั่งผู้ขับขี่ มีระบบเบาะอุ่น-เย็นคู่หน้า ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งและกระจกมองข้าง ส่วนหน้าจออินโฟเทนเมนท์จะมีขนาด 12.3 นิ้ว ซึ่งจะรองรับ APPLE CARPLAY/ANDROID AUTO มีที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย WIRELESS CHARGER และช่องชาร์จไฟ USB 6 ตำแหน่ง อีกทั้งยังมีจอ TABLET สำหรับผู้โดยสารตอนหลังและระบบเสียง BOSE พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่งรอบคันอีกด้วย
ในส่วนของระบบความปลอดภัยมาตรฐานนั้นก็จะมีถุงลมนิรภัยด้านหน้าและด้านข้าง, ม่านถุงลมนิรภัย, ถุงลมนิรภัยป้องกันหัวเข่าผู้ขับขี่, ระบบควบคุมการทรงตัว ESC, ระบบเบรก ABS/EBD/BAS, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC, เบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ AUTO BRAKE HOLD และกล้องมองภาพรอบทิศทาง SURROUND VIEW MONITOR เป็นต้น
ด้านขุมพลังนั้นได้ถูกติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.2 ลิตร TCI-VGT โดยจะให้กำลังสูงสุด 202 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 441 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,750 รอบ/นาที ซึ่งได้ผ่านค่ามาตรฐานการปล่อยไอเสียระดับ EURO 5 และส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ PADDLE SHIFT LEVERS ที่พวงมาลัยด้วย
