MCLAREN SENNA ไฮเปอร์คาร์แรงทะลุดุดัน

MCLAREN SENNA ไฮเปอร์คาร์แรงทะลุดุดัน

MCLAREN SENNA ไฮเปอร์คาร์แรงทะลุดุดัน

     ล่าสุดทางค่าย MCLAREN ได้เปิดตัวไฮเปอร์คาร์รุ่นใหม่ออกมาในชื่อ SENNA ซึ่งเป็นการย้อนระลึกถึงนักแข่งรถที่มีชื่อว่า SENNA โดยเป็นนักแข่งรถที่เคยแข่งให้กับทีม MCLAREN-HONDA และเขาก็สามารถคว้าแชมป์โลกได้ถึง 3 สมัยเลย และปีที่เขาคว้าแชมป์โลกนั้นก็คือ 1988, 1990 และ 1991 นอกจากนี้การสร้าง MCLAREN SENNA ขึ้นมานั้นก็ยังเป็นการบ่งบอกด้วยว่าสิ่งที่อยู่ในตัวของ SENNA นั้นก็คือตัวรถสปอร์ตที่ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ และไมค์ ฟลูอิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแมคลาเรนก็ได้กล่าวว่า “ SENNA เป็นไฮเปอร์คาร์ที่ไม่เหมือนใคร สะท้อนดีเอ็นเอมอเตอร์สปอร์ตของแมคลาเรนได้อย่างแท้จริง ทุกองค์ประกอบมุ่งเน้นที่สมรรถนะโดยแท้จริง สร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ขับขี่กับตัวรถได้อย่างผุดผ่องแบบที่แมคลาเรนเท่านั้นที่จะทำได้”

MCLAREN SENNA ไฮเปอร์คาร์แรงทะลุดุดัน

ดีไซน์ภายนอก

     รูปร่างหน้าตาของ MCLAREN SENNA ดูแปลกตาอยู่พอสมควรเมื่อเทียบกับรถรุ่นอื่น ๆ ของแมคลาเรน เพราะทีมนักออกแบบและวิศวกรต้องการสร้างตัวถังให้มีความลู่ลมมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ โดยมีแนวคิดการออกแบบคือ “ฟังก์ชั่นใช้งานมาก่อนรูปลักษณ์” (FORM FOLLOWS FUNCTION) การสังเกตการทำงานโดยละเอียดที่เข้าไปในทุกองค์ประกอบตามหลักอากาศพลศาสตร์ของ MCLAREN SENNA นั้นชวนให้หลงใหล การได้สัมผัสกับการทำงานพร้อมเพรียงกันนั้นเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่ออย่างแท้จริง ผลลัพธ์ 800 กก. ของ DOWNFORCE ในโหมด RACE ที่ความเร็วต่ำกว่าความเร็วสูงสุดอย่างมาก (155 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือ 250 กม. )ที่มุ่งลดแรงเสียดทานและเพิ่มการหล่อเย็นด้วยอากาศไปพร้อมกัน ด้วยแผงดิฟฟิวเซอร์ด้านหลัง แผงใต้ท้องรถ และสปอยเลอร์ขนาดใหญ่ที่ปรับเองได้นั้นจะทำงานร่วมกันอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งเกิดจากการวิจัยและพัฒนามาอย่างยาวนานในอุโมงค์ลม

     MCLAREN SENNA ได้ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ซึ่งเน้นให้มีรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว เพื่อเหนี่ยวนำกระแสอากาศให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของด้านอากาศพลศาสตร์นั่นเอง นอกจากนี้ยังบ่งบอกถึงความดุดันมากขึ้นกว่ารุ่นก่อน ๆ ด้วย ในส่วนด้านหลังก็ได้ถูกออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ โดยมีข้อกำหนดในเรื่องของการหล่อเย็นเครื่องยนต์ มีปีกที่ยื่นออกจากช่องบานเกล็ดซ้อนชั้น ซึ่งจะเบนอากาศออกจากท้ายรถและไหลลงสู่ด้านข้าง ส่งผลให้ส่วนที่มีแรงกดต่ำนั้นดึงอากาศร้อนออกจากหม้อน้ำรถยนต์และห้องเครื่องยนต์ด้วย นอกจากนี้ท่อไอเสียก็ถูกดีไซน์แบบตัดเฉียงเพื่อช่วยในการไหลเวียนของอากาศ ภายในห้องโดยสาร

ภายในห้องโดยสาร

     MCLAREN SENNA จะมีเบาะนั่งฝั่งคนขับที่สามารถเลื่อนปรับได้ด้วยราง ซึ่งแป้นเหยียบนั้นได้ติดตั้งในตำแหน่งตายตัว และการเปลี่ยนโหมดการขับขี่จะมีแบบ DRIVE, NEUTRAL และ RESERVE ที่ติดตั้งอยู่ตรงที่นั่งของผู้ขับ ซึ่งจะเลื่อนไปตามการปรับตำแหน่งของเบาะ ส่วนพวงมาลัยนั้นจะเป็นแบบสามแกนตกแต่งด้วยหนัง ALCANTARA โดยที่ไม่มีปุ่มและสวิตช์ใด ๆ ซึ่งจะทำให้ผู้ขับมีสมาธิจดจ่อกับการขับขี่มากขึ้น นอกจากนี้พวงมาลัยก็ได้ติดตั้งแป้นเปลี่ยนเกียร์ CARBON FIBER ซึ่งทำผิวแบบซาตินที่เชื่อมเข้ากับสวิตช์แบบกระดกด้านหลังพวงมาลัยได้อย่างลงตัว

ด้านขุมพลัง

     MCLAREN SENNA มาพร้อมกับเครื่องยนต์บล็อก V8 ความจุกระบอกสูบขนาด 4.0 ลิตร แบบไบเทอร์โบเหมือนกับรุ่น 720S ซึ่งได้ถูกดัดแปลงให้มีสมรรถนะสูงสุด 789 แรงม้า โดยมีกำลังเครื่องสูงสุดที่ 7,250 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 800 นิวตัน-เมตร ที่ 5,500-6,700 รอบ/นาที และการทำงานของไดนาโมมิเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการควบคุมพลังงานนั้นก็ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งจะช่วยมอบกำลังให้กับเครื่องยนต์และแรงบิดได้ตามที่ต้องการเลย

MCLAREN SENNA ไฮเปอร์คาร์แรงทะลุดุดัน

     MCLAREN SENNA ได้ผลิตออกมาในจำนวนจำกัด ซึ่งผลิตมาในรูปแบบ LIMITED EDITION มีทั้งหมดจำนวน 500 คันทั่วโลก โดยมีราคาอยู่ที่ 750,000 ปอนด์ ซึ่งทั้งหมดนั้นได้ถูกสั่งจองหมดเรียบร้อยแล้ว และต้องบอกว่าทุกคันนั้นได้ประกอบผ่านมือช่างผู้เชี่ยวชาญที่ศูนย์การผลิต MCLAREN ในเมืองเซอร์เรย์ ประเทศอังกฤษด้วย ถือเป็นรถรูปแบบใหม่ที่เรียกได้ว่าเหนือพลังและคุ้มค่าอย่างมากเลยทีเดียว ไม่ใช่แค่แรงขับขี่ที่มีประสิทธิภาพเพียงเท่านั้น แต่ด้วยคุณภาพของเครื่องยนต์ที่จัดหนักจัดเต็ม ถูกใจคอรถอย่างแน่นอนกับ MCLAREN SENNA

RELATES POST