เปิดตัวรถรุ่นใหม่น่าลอง 2021

เปิดตัวรถรุ่นใหม่น่าลอง 2021

เปิดตัวรถรุ่นใหม่น่าลอง 2021

     หลาย ๆ คนที่เป็นแฟนรถยนต์หรือจะเรียกว่าผู้ที่ชื่นชอบในเรื่องของรถยนต์คงกำลังตั้งตารอรถยนต์รุ่นใหม่ที่กำลังจะนำออกจำหน่ายในปี 2021 นี้แล้วใช่ไหมล่ะ? ซึ่งในวันนี้เราจะมาแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่น่าลองในปี 2021 ที่ได้นำออกจำหน่ายแล้วในบางประเทศมาให้ทุกคนได้รู้จักว่ามันจะน่าลองมากขนาดไหน โดยวันนี้เรามี 5 รถยนต์รุ่นใหม่น่าลอง 2021 มานำเสนอ และจะมีรถรุ่นใดบ้างนั้นตามไปดูกันเลย

1.BMW IX 2021

     BMW IX 2021 นั้นจะมีให้เลือกทั้งหมด 2 ขุมพลังด้วยกัน ซึ่งได้แก่ XDRIVE40 ที่มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว สำหรับขับเคลื่อนล้อคู่หน้าและล้อคู่หลัง โดยจะให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้า อัตราเร่งความเร็ว 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ใน 6.0 วินาที ส่วนรุ่น XDRIVE50 นั้นจะเพิ่มพละกำลังขึ้นเป็น 500 แรงม้า อัตราเร่งความเร็ว 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ใน 5.0 วินาที โดยในรุ่น IX XDRIVE40 นั้นจะติดตั้งแบตเตอรี่แบบ LITHIUM-ION ซึ่งมีความจุ 70 KWH จะให้ระยะทางขับขี่มากกว่า 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้งตามมาตรฐานของ WLTP และ IX XDRIVE50 จะเพิ่มความจุแบตเตอรี่ขึ้นเป็น 100 KWH โดยจะให้ระยะทางขับขี่มากกว่า 600 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง ซึ่งทั้งคู่ก็ยังสามารถชาร์จแบตเตอรี่เป็นระยะเวลา 10 นาทีได้ เพื่อให้ได้ระยะทางการขับขี่ประมาณ 120 กิโลเมตร และจะรองรับการชาร์จด่วนจากระดับ 10-80% ในเวลาไม่ถึง 40 นาที และต้องบอกว่า BMW IX 2021 นี้จะมาพร้อมกับ IDRIVE ระบบปฏิบัติการ BMW OPERATING SYSTEM 8 เวอร์ชั่นล่าสุดด้วย ซึ่งจะมาพร้อมกับหน้าจอโค้ง CURVED DISPLAY ขนาด 12.3 นิ้ว ที่เชื่อมไวด้วยกัน โดยจะสามารถรองรับระบบเชื่อมต่อ 5G ด้วย อีกทั้งยังมีความเร็วในการประมวลผลมากกว่าเดิมถึง 20 เท่าเลย ถือเป็นรถอีกรุ่นในปี 2021 ที่น่าลองมาก ๆ

     BMW IX 2021 ราคาในตลาดยุโรปจะมีราคาเริ่มต้นที่ 77,300 ยูโร หรือประมาณ 2,800,000 บาท

BMW IX 2021
BMW IX 2021
BMW IX 2021

2.NISSAN ARIYA 2021

     NISSAN ARIYA 2021 ได้ทำการเปิดตัวไปทั้งหมด 4 รุ่นด้วยกัน ซึ่งตัวมาตรฐานนั้นจะเป็นขุมกำลังจากแบตเตอรี่ที่มีขนาด 65 KWH มีมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว โดยจะให้กำลังสูงสุด 215 แรงม้า แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 300 นิวตัน-เมตร ซึ่งจะเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหลัง อัตราเร่งความเร็ว 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ใน 7.5 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสึดได้ถึง 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง และสามารถวิ่งได้ไกล 450 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งเลย ในขณะที่อีกรุ่นจะมีขนาดแบตเตอรี่ใหญ่ขึ้นมา 90 KWH โดยจะให้กำลังสูงสุด 239 แรงม้า แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 300 นิวตัน-เมตร และจะเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหลัง อัตราเร่งความเร็ว 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ใน 7.6 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งสามารถวิ่งได้ไกลถึง 610 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง นอกจากนี้ NISSAN ARIYA 2021 ก็ยังมีรุ่นที่มีมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวด้วย ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ขนาด 65 KWH โดยสามารถให้กำลังสูงสุด 335 แรงม้า แรงบิดอยู่ที่ 560 นิวตัน-เมตร และรุ่นตัวท็อปที่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (E-4ORCE) จะมีแบตเตอรี่ขนาด 90 KWH โดยให้กำลังสูงสุด 389 แรงม้า แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 600 นิวตัน-เมตร อัตราเร่งความเร็ว 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ใน 5.1 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 199 กิโลเมตร/ชั่วโมง และวิ่งได้ไกล 580 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

รูปลักษณ์ภายนอก

     ได้รับการออกแบบภายใต้ปรัชญาการออกแบบใหม่แนวคิด TIMELESS JAPANESE FUTURISM ซึ่งเป็นกระจังหน้าแบบ 3D ขนาดใหญ่ โดยมีโลโก้ใหม่ของ NISSAN ติดอยู่ตรงกลาง ล้ออะลูมิเนียมขนาด 19 และ 20 นิ้วให้เลือก ภายในห้องโดยสารจะมีแดชบอร์ดที่เหมือนกับลอยอยู่บนอากาศ และมีมาตรวัดที่เป็นแบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว อีกทั้งยังมีจอเพื่อความบันเทิงอีกจอขนาดเดียวกันด้วย และอีกหนึ่งจุดเด่นของ NISSAN ARIYA 2021 นั่นก็คือเขามีระบบการขับขี่อัตโนมัติ (PROPILOT 2.0) ติดมาด้วย ซึ่งมันจะช่วยให้ขับตรงเลน และระบบช่วยจอดผ่านรีโมต PROPILOT REMOTE PARK และคันแร่ง E-PEDAL ที่เป็นกล้องมองภาพรอบทิศทาง 7 ตัว มีระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้า และระบบเบรกอัจฉริยะอีกด้วย

     NISSAN ARIYA 2021 รถ SUV พลังงานไฟฟ้าล้วนจะมีกำหนดการวางจำหน่ายในช่วงกลางปี 2564 ในประเทศญี่ปุ่น โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 5 ล้านเยน หรือประมาณ 1,589,000 บาท ก่อนที่จะมีกำหนดวางจำหน่ายในยุโรป อเมริกาเหนือ และประเทศจีน ในช่วงปลายปี 2564 ส่วนในตลาดประเทศไทยนั้นก็คาดว่าน่าจะเป็นช่วงต้นปี 2565

NISSAN ARIYA 2021
NISSAN ARIYA 2021
NISSAN ARIYA 2021

3.TOYOTA CAMRY 2021

     TOYOTA CAMRY 2021 ไมเนอร์เชนจ์ได้เริ่มวางจำหน่ายแล้วในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2021 ที่ผ่านมา ซึ่งสามารถเลือกดีไซน์ได้ 2 แบบ ประกอบด้วย รุ่น G, G LEATHER PACKAGE และ X ที่เน้นความหรูหรา ซึ่งจะเป็นดีไซน์เดียวกับเวอร์ชั่นไทย และรุ่น WS และ WS LEATHER PACKAGE ที่เน้นความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวมากกว่า และสำหรับดีไซน์ของรุ่น G, G LEATHER PACKAGE และ X ที่เป็นเวอร์ชั่นเดียวกับที่วางขายในบ้านเรานั้น จะมีการออกแบบกันชนหน้าแบบใหม่พร้อมกับการตกแต่งด้วยคิ้วโครเมียม ซึ่งจะให้ความหรูหรามากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีการปรับอุปกรณ์จำพวกไฟหน้าและไฟท้ายใหม่ด้วย

     โดยส่วนนี้จะขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่นย่อย และภายในห้องโดยสารก็ได้ขยายความกว้างของหน้าจอในระบบอินโฟเทนเมนท์จากเดิมขนาด 8 นิ้ว มาเป็น 9 นิ้ว และก็ยังมีการตกแต่งแผงคอนโซลต่างออกไปจากเดิมด้วย แต่จะไม่ต่างมากนัก โดยเวอร์ชั่นญี่ปุ่นนั้นจะสามารถเลือกตัวถังภายนอกได้ทั้งหมด 7 สีด้วยกัน ซึ่งจะแบ่งออกเป็นสีโมโนโทน 5 สี และสีทูโทนหลังคาดำอีก 2 สี นอกจากนี้ยังมีด้านระบบความปลอดภัยขั้นสูงด้วย โดย TOYOTA SAFETY SENSE มีการเพิ่มเติมระบบ LANE TRACING ASSIST เพื่อช่วยในการควบคุมพวงมาลัยป้องกันรถออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ, ระบบ RADAR CRUISE CONTROL ที่ได้เพิ่มฟีเจอร์เข้ามาเพื่อลดความเร็วอัตโนมัติก่อนเข้าโค้ง และระบบช่วยหยุดรถอย่างปลอดภัยโดยอัตโนมัติเมื่อผู้ขับขี่ไม่ตอบสนอง

     รวมไปถึงระบบป้องกันการชนด้านหน้า PRE-CRASH SAFETY ที่ถูกเพิ่มความสามารถในการตรวจจับคนเดินถนนในเวลากลางคืน และตรวจจับจักรยานในเวลากลางวันได้ นอกจากนี้ก็ยังสามารถหยุดรถได้อัตโนมัติด้วย หากมีรถพุ่งสวนเข้ามาในทิศทางตรงกันข้ามขณะเลี้ยว และสามารถตรวจจับคนข้ามถนนในขณะเลี้ยวได้ด้วย และยังไม่พอยังช่วยหักพวงมาลัยหลบให้โดยอัตโนมัติเมื่อมีความเสี่ยงต่อการชนอีกด้วย

     ราคาจำหน่าย TOYOTA CAMRY 2021 ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ที่ญี่ปุ่นจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ในระหว่าง 3,485,000-4,672,000 เยน หรือประมาณ 990,000-1,340,000 บาท

TOYOTA CAMRY 2021
TOYOTA CAMRY 2021
TOYOTA CAMRY 2021

4.TOYOTA C-HR GR SPORT

     TOYOTA C-HR GR SPORT ใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นบนเวอร์ชั่นไมเนอร์เชนจ์ โดยจะเริ่มวางจำหน่ายแล้วในหลายประเทศ โดยรุ่น GR SPORT นั้นจะมาพร้อมกับไฟหน้าและไฟตัดหมอกแบบโคมดำ ส่วนช่องดักลมบริเวณกันชนหน้านั้นก็จะตกแต่งด้วยสีดำทั้งชิ้น และฝาครอบกระจกมองข้างสีดำก็จะมาพร้อมกับตัวถังแบบทูโทนหลังคาสีดำ เสริมด้วยล้ออัลลอย GR SPORT แบบ DOUBLE-SPOLE 5 ก้าน ที่มีขนาด 19 นิ้ว และในส่วนของห้องโดยสารนั้นจะมีการติดตั้งเบาะนั่งหุ้มวัสดุผ้าที่ตกแต่งแบบพิเศษเลย ส่วนพวงมาลัยก็จะเป็นแบบหุ้มหนังแบบมีรูระบายอากาศและตกแต่งด้วยตะเข็บสีแดง ส่วนแผงคอนโซลหน้าก็จะตกแต่งด้วยสีเงิน โดยจะมีบันไดข้าง GR SPORT และสัญลักษณ์ GR SPORT บริเวณปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ นอกจากนี้ยังสามารถเลือก OPTION เสริมเป็นเบาะนั่งหุ้ม ALCANTARA พร้อมกับระบบปรับไฟฟ้าคู่หน้าได้ด้วย รวมไปถึงระบบเสียงระดับพรีเมียมจาก JBL

     ด้านขุมพลังของรุ่น GR SPORT สามารถเลือกได้ทั้งเครื่องยนต์เบนซินไฮบริด 1.8 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร และขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 190 นิวตัน-เมตร ซึ่งจะส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT เท่านั้น

     ราคาจำหน่าย TOYOTA C-HR GR SPORT ในประเทศอังกฤษจะมีราคาเริ่มต้นที่ 31,395 ปอนด์ หรือประมาณ 1,290,000 บาท

TOYOTA C-HR GR SPORT
TOYOTA C-HR GR SPORT
TOYOTA C-HR GR SPORT

5.BMW 4 SERIES CONVERTIBLE 2021

     ทาง BMW ได้เปิดตัว THE ALL-NEW BMW 4 SERIES CONVERTIBLE 2021 ซึ่งเป็นรถยนต์หรู 2 ประตู เปิดประทุนใหม่ล่าสุดเลย โดยจะนับเป็น GENERATION 2 ของโมเดลนี้ และต้องบอกว่าสิ่งที่โดดเด่นเห็นได้ชัดเจนเลยก็คือกระจังหน้าขนาดใหญ่ที่มีการดีไซน์ใหม่ และตัวหลังคาที่ปรับมาใช้วัสดุเบาอย่างผ้าใบแทนแบบเดิม โดยรูปลักษณ์โดยรวมของ BMW 4 SERIES CONVERTIBLE 2021 นี้ก็ถือว่ายังคงไว้ซึ่งแบบฉบับคูเป้ 2 ประตูของ SERIES 4 อยู่ รวมไปถึงกระจังหน้าไตคู่ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นแบบเดียวกันกับ BMW 4-SERIES COUPE 2020 ที่มีการเปิดตัวไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา

     แต่สิ่งที่ได้ปรับเปลี่ยนไปจากโมเดลก่อนหน้านี้ที่เห็นได้ชัดก็คือส่วนของหลังคาที่เปลี่ยนจากโลหะมาใช้วัสดุผ้าใบที่มีน้ำหนักเบาแทน ซึ่งทาง BMW ได้ระบุว่ามันจะทำให้ตัวหลังคาเบากว่าเดิมถึง 40% และที่สำคัญจะทำให้เปิด-ปิดได้ในขณะที่ใช้ความเร็วสูงสุด 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยจะใช้เวลาเพียงแค่ 18 วินาทีเท่านั้น แต่ในส่วนอื่น ๆ ของ BMW นั้นก็ยังคงพยายามสร้างความแข็งแกร่งของโครงสร้างแบบคูเป้ไว้ให้มากที่สุด เช่น ในส่วนของหน้ารถและสเกิร์ตด้านข้างที่มีการเสริมโครงสร้างให้ทนทานขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ 4%

     ในส่วนของเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง BMW 4 SERIES CONVERTIBLE 2021 นั้นก็ยังคงเป็นแบบเดียวกับ BMW 4-SERIES COUPE อยู่ โดยจะแยกตาม OPTION รุ่น M430I จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ (TWIN-SCROLL) โดยจะให้กำลังสูงสุด 255 แรงม้า แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 400 นิวตัน-เมตร อัตราเร่งความเร็ว 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ใน 6.2 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง

     รุ่น M440I จะเป็นเทคโนโลยี MILD HYBRID ที่เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร ซึ่งจะทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ขนาด 48 โวลต์ โดยจะให้กำลังรวมกัน 382 แรงม้า แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 500 นิวตัน-เมตร อัตราเร่งความเร็ว 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ใน 5.0 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยทั้ง 2 รุ่นนี้จะทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด

     THE ALL-NEW BMW 4 SERIES CONVERTIBLE 2021 ได้มีกำหนดวันจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาแล้ว โดยระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ จะเริ่มขายในเดือนมีนาคม 2021 และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ จะเริ่มขายในเดือนกรกฎาคม รุ่น M430I จะมีราคาเริ่มต้นที่ 54,095 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,700,000 บาท และรุ่น M440I จะมีราคาเริ่มต้นที่ 64,995 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,050,000 บาท

BMW 4 SERIES CONVERTIBLE 2021
BMW 4 SERIES CONVERTIBLE 2021
BMW 4 SERIES CONVERTIBLE 2021

RELATES POST

NETA V ราคา

รู้จักรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน NETA V ราคา สเปค และคุณสมบัติโดนใจคนรักษ์โลก

ในปัจจุบันบริษัทผลิตรถยนต์หลายแบรนด์ได้มีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศ ด้วยกระแ

READ MORE
เช็คภาษีรถยนต์

วิธี เช็คภาษีรถยนต์ พร้อมแนะนำการยื่นภาษีออนไลน์ด้วยตัวเองฉบับเข้าใจง่าย 

การต่อภาษีรถยนต์เป็นสิ่งที่ต้องทำทุกปีตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้ ในกรณีที่ไม่ได้ต่อภาษีรถยนต์นานติดต่อก

READ MORE