จุดกำเนิดรถยนต์คันแรกของโลก

จุดกำเนิดรถยนต์คันแรกของโลก

จุดกำเนิดรถยนต์คันแรกของโลก

     จุดกำเนิดรถยนต์คันแรกของโลก ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 120 ปีก่อน ซึ่งยุคนั้นการเดินทางส่วนใหญ่จะเป็นการใช้คนลากหรือม้าลากเพื่อที่จะขนส่งทั้งคนและสัมภาระไปยังที่ต่าง ๆ และจุดเริ่มต้นของมันเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ปี 1844 ณ KARLSRUBE, GERMANY เด็กคนหนึ่งได้ถูกกำเนิดขึ้นมาพร้อมกับแรงบันดาลใจในด้านเครื่องยนต์เต็มเปี่ยม มีนามว่า CARL BENZ พออายุได้ 2 ขวบ พ่อของเขาได้เสียชีวิตลง และทำให้เขาต้องใช้ชีวิตด้วยเงินที่จำกัดจากที่พ่อเขาหามาได้ก่อนจะเสียชีวิต โดยแม่ของ CARL BENZ ได้ดิ้นรนทำงานทุกวิถีทางเพื่อที่จะส่งลูกเข้าโรงเรียนสอนแกรมมาร์ และเรียนต่อด้านวิศวกรรมเครื่องกล เมื่อคาร์ลรู้ว่าแม่ของเขาตั้งใจทำงานหาเงินให้เขาเรียน เขาจึงตั้งใจเรียนให้จบเพื่อที่จะออกมาทำงานตอบแทนบุญคุณแม่ของเขา พอเรียนจบเขาก็ได้ทำงานเป็นช่างกุญแจ ดีไซเนอร์ และได้ไต่เต้าขึ้นไปเป็นหัวหน้าของ WORKSHOP แห่งหนึ่ง แต่ด้วยความทะเยอทะยานทำให้เขาไม่หยุดอยู่แค่นี้

ก่อตั้งบริษัท CARL BENZ & AUGUST

     ในปี 1871 คาร์ลและเพื่อนของเขาที่ชื่อว่า AUGUST RITTER ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท CARL BENZ & AUGUST RITTER ENGINEERING WORKSHOP ที่ MANNHEIM เพื่อค้นคว้าและพัฒนาเครื่องยนต์เผาไหม้ภายในที่ใช้น้ำมันตัวแรกของโลก โดยให้คอนเซปต์กับการค้นคว้านี้ว่า VEHICLE WITHOUT HORSE หรือยานพาหนะที่ไม่ต้องใช้ม้าอีกต่อไป ในช่วงแรกที่บริษัทได้ก่อตั้งยังไม่มีกำไรอะไรเลย และยังเกิดปัญหาอีกมากมาย จนได้รู้ว่า AUGUST RITTER ไม่ได้ช่วยอะไรเลย กลับสร้างแต่ปัญหาให้ คาร์ลจึงหาทางที่จะไล่หุ้นส่วนของเขาออก แต่ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะทาง AUGUST ก็เหมือนเป็นเจ้าของบริษัทคนหนึ่งเช่นกัน คาร์ลจึงตัดสินใจใช้เงินสินสอดที่เขาจะเอาไปแต่งงานกับ BERTHA RINGER จ่ายกับทาง AUGUST เพื่อให้ออกจากบริษัท และเขาจะได้เป็นผู้บริหารคนเดียวแทน

CARL BENZ & AUGUST
CARL BENZ & AUGUST

เครื่องยนต์น้ำมันตัวแรกของโลก

     หลังจากนั้นเขาก็มุ่งมั่นที่จะสร้างเครื่องยนต์น้ำมันตัวแรกของโลก ต้องบอกว่าเขาแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลยทีเดียว เวลาผ่านไปนานแล้วเขาก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ จนเขาคิดว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ จนกระทั่งในคืนของวันปีใหม่ ในปี 1879 เครื่องยนต์น้ำมัน 2 จังหวะก็เกิดสตาร์ทติดเป็นครั้งแรก นับว่าเป็นก้าวสำคัญมาก ๆ ของบริษัทเขา แต่มันก็ส่งผลให้เงินของเขาเริ่มร่อยหรอจากการเอาไปพัฒนาและลงทุนให้กับเครื่องยนต์นี้ แต่ก็ยังนับว่าเป็นความโชคดีเหมือนกัน เพราะว่าในปี 1883 เขาได้พบกับนักธุรกิจหนุ่มอย่าง MAX KASPAR ROSE และเซลขายของมือฉมังอย่าง FRIEDRICH WILHELM ESSLINGER ที่เห็นดีเห็นงามในผลงานของเขา และพร้อมจะจ่ายเงินก้อนโตเพื่อมาเป็นหุ้นส่วนด้วยกัน

เมื่อพวกเขาตกลงปลงใจที่จะร่วมหุ้นกันแล้ว พวกเขาจึงร่วมก่อตั้งบริษัทด้วยกัน 3 คน และตั้งชื่อบริษัทว่า BENZ & CIE.RHEINISCHE GASMOTOREN-FABRIK MANNHEIM และในไม่ช้าคาร์ลก็ได้จดทะเบียนเครื่องยนต์ที่เขาได้ค้นคว้าและพัฒนามาอย่างยาวนาน โดยตั้งชื่อว่า SYSTEM BENZ และทุกอย่างกำลังไปได้ดี ขายเครื่องให้กับโรงงานต่าง ๆ มากมาย จำนวนพนักงานก็เพิ่มมากขึ้นถึง 25 คน และมากไปกว่านั้นคาร์ลได้ซุ่มพัฒนาเครื่องยนต์ตัวนี้เพื่อเอาไปใส่ในรถยนต์อย่างต่อเนื่อง แต่อยู่ดี ๆ หุ้นส่วนของเขาก็เริ่มจะห่วงอนาคตกับธุรกิจนี้ เนื่องจากคาร์ลมุ่งมั่นเป้าหมายด้านรถยนต์ที่หุ้นส่วนทั้งสองคนเขาเชื่อว่ามันเป็นไปไม่ได้ หลังจากนั้นคาร์ลจึงเปลี่ยนหุ้นส่วน และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่หุ้นส่วนเดินจากเขาไป แต่ก่อนที่หุ้นส่วนของเขาจะออกไปเขาก็ได้พูดกับคาร์ลว่า “อย่าเสียเวลาไปกับรถยนต์เลย มันเป็นไปไม่ได้หรอก” แต่คาร์ลก็ยังมุ่งมั่นต่อไปอย่างไม่ย่อท้อและไม่สนคำสบประมาท

เวลาผ่านไป 2 ปี คาร์ลได้ค้นคว้าและประดิษฐ์เครื่องยนต์รุ่นใหม่และระบบใหม่ ที่ใช้ 4 จังหวะดูดอัดระเบิดคายในการขับเคลื่อน และครั้งนี้เพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นเขาไม่เอาโครงรถที่มีอยู่แล้วมายัดเครื่องยนต์ แต่เขาได้สร้างโครงรถใหม่เองทั้งหมด ซึ่งเป็นแบบสามล้อ เพราะเขาไม่ชอบรถสี่ล้อที่เป็นระบบเลี้ยวแบบเดิมที่ใช้อยู่ในรถม้า เขาคิดว่ามันไม่ดีมากพอ โดยเครื่องยนต์ของเขามาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1 สูบ ที่ทำรอบได้ถึง 400 รอบ/นาที วางอยู่หลังคนขับ และในวันที่ 26 มกราคม 1886 คาร์ลได้ยื่นโจทย์สิทธิบัตรยานยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์น้ำมันไปยังสำนักงานที่มีชื่อว่า PATENT-MOTORWAGEN หรือ PATENT MOTOR CAR พร้อมกับ DRP37435 ซึ่งเขาก็ได้แจ้งเกิดให้กับรถยนต์คันแรกของโลกเป็นที่เรียบร้อย และอีกหนึ่งบุคคลที่สำคัญ ซึ่งก็คือ BERTHA BENZ ภรรยาของคาร์ลได้แจ้งเกิดรถยนต์คันนี้ด้วยเช่นกัน เพราะคาร์ลรู้แต่วิธีที่จะสร้างเครื่องยนต์และรถขึ้นมา แต่ไม่รู้วิธีการขายและโปรโมตสินค้า

ในคืนหนึ่งที่คาร์ลไม่อยู่ ภรรยาของเขาก็ได้โปรโมตรถโดยการขับ PATENT MOTOR CAR ไปที่บ้านแม่ของเขา ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขาเอง พร้อมกับลูก ๆ อีกสองคนเพื่อพิสูจน์ความทนทานของรถคันนี้ โดยระยะทางจากบ้านที่ MANNHEIM ไป PFORZHEIM มันไกลแสนไกลถึง 100 กิโลเมตร ในสมัยนั้นถือว่าไกลมาก ๆ ถึงแม้ว่าภรรยาของคาร์ลและลูก ๆ นั้นจะพบกับอุปสรรคมากมาย ทั้งน้ำมันหมดต้องเติมเอง และต้องเติมน้ำเพื่อระบายความร้อนตลอด รถขึ้นเขาไม่ไหว แต่ก็ยังสู้และเข็นรถขึ้นไป แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยก็คือเครื่องยนต์ของคาร์ลมันไม่พังเลยสักนิดเดียว

เมื่อพวกเขาได้กลับมาผู้คนในทุกเมืองที่เขาขับผ่านไปพูดถึงแต่รถคันนี้จนกลายเป็น TALK OF THE TOWN ซึ่งถือว่าภรรยาของคาร์ลนั้นประสบความสำเร็จอย่างมาก ในการทำ MARKETING ให้กับรถของคาร์ลดังจนพลุแตก หลังจากนั้นโรงรถเล็ก ๆ ของคาร์ลก็กลายเป็นโรงงานผลิตรถยนต์พรีเมียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีคนงานถึง 400 คน โดยเขาสามารถขายรถยนต์ได้ในปีแรกที่เข้าสู่สายการผลิตได้มากถึง 600 คันเลยทีเดียว

BENZ & CIE.RHEINISCHE GASMOTORENFABRIK MANNHEIM
BENZ & CIE.RHEINISCHE GASMOTORENFABRIK MANNHEIM

ได้รับการยอมรับว่าเป็นรถยนต์คันแรกของโลก

     BENZ PATENT-MOTORWAGEN หรือ PATENT MOTOR CAR ผลิตในปี 1886 และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นรถยนต์คันแรกของโลก ซึ่งเป็นพาหนะที่ออกแบบมาให้ขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์สันดาปภายใน มีราคาเดิมของพาหนะในปี 1885 อยู่ที่ 150 ดอลลาร์สหรัฐ ฯ และพาหนะดังกล่าวได้รับสิทธิบัตรของเยอรมนี หมายเลข 37435 โดย CARL BENZ ได้ขอจดทะเบียนไว้เมื่อวันที่ 29 มกราคม 1886 และต่อมาเขาก็ได้เปิดตัวประดิษฐกรรมของเขาต่อสาธารณะ เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 1886 บนถนนริงชตราเซอ ใน MANNHEIM ประเทศเยอรมนี หลังจากนั้นเครื่องยนต์สันดาปภายในของเขาก็ประสบความสำเร็จ และได้ถูกนำไปต่อยอดจนกลายเป็นเครื่องจักรที่ใช้สำหรับการขับเคลื่อนรถ เรือ รถไฟ และเครื่องบินในเวลาต่อมา ทำให้คนทั่วโลกนั้นเดินทางไปมาหาสู่กันได้ง่ายขึ้นอย่างทุกวันนี้

BENZ PATENT-MOTORWAGEN
BENZ PATENT-MOTORWAGEN

RELATES POST

NETA V ราคา

รู้จักรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน NETA V ราคา สเปค และคุณสมบัติโดนใจคนรักษ์โลก

ในปัจจุบันบริษัทผลิตรถยนต์หลายแบรนด์ได้มีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศ ด้วยกระแ

READ MORE
เช็คภาษีรถยนต์

วิธี เช็คภาษีรถยนต์ พร้อมแนะนำการยื่นภาษีออนไลน์ด้วยตัวเองฉบับเข้าใจง่าย 

การต่อภาษีรถยนต์เป็นสิ่งที่ต้องทำทุกปีตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้ ในกรณีที่ไม่ได้ต่อภาษีรถยนต์นานติดต่อก

READ MORE